เทคนิคการออกแบบฉลากสินค้า สติ๊กเกอร์สินค้าให้ดึงดูดใจลูกค้า

สร้างเอกลักษณ์ และสร้างความน่าสนใจให้กับตัวสินค้าด้วยสติกเกอร์สินค้า

สติกเกอร์สินค้า

สำหรับธุรกิจที่ต้องมีบรรจุภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นกระปุก ขวด กล่อง หรือซองก็ตาม การมีฉลากสินค้าหรือสติกเกอร์สินค้าแปะอยู่บนบรรจุภัณฑ์นั้น นอกจากจะเป็นการให้ข้อมูลของผลิตภัณฑ์กับผู้ซื้อสินค้าแล้ว ยังเป็นการสร้างเอกลักษณ์ และสร้างความน่าสนใจให้กับตัวสินค้าอีกด้วย แต่การจะผลิตสติกเกอร์สินค้า ย่อมไม่ใช่แค่เพียงการเอาโลโก้สินค้ามาวางคู่กับรายละเอียดของสินค้าเท่านั้น แต่จะต้องมีการออกแบบสติกเกอร์สินค้าให้มีความสวยงามอีกด้วย

การออกแบบสติกเกอร์สินค้านั้น หากออกแบบอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ก็จะทำให้สติกเกอร์สินค้าดูน่าสนใจ และสามารถเรียกผู้คนให้หยิบจับสินค้าขึ้นมาดูมาชมได้มากขึ้น

เทคนิคการออกแบบสติกเกอร์สินค้า

  1. กำหนดคอนเซปท์ในการออกแบบ
    ก่อนจะทำการออกแบบสติกเกอร์สินค้า ขั้นแรกจะต้องวางคอนเซปท์ในการออกแบบขึ้นมาเสียก่อน ว่าต้องการให้สติกเกอร์สินค้ามีรูปแบบเป็นอย่างไร โดยต้องให้สอดคล้องไปกับตัวผลิตภัณฑ์ และบุคลิกของผลิตภัณฑ์ เช่น หากสินค้าเป็นผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรธรรมชาติ และมีความโบราณเป็นจุดขาย คอนเซปท์ในการออกแบบก็อาจเป็นแนววินเทจ หรือใช้รูปวาดสไตล์ไทยเข้ามาช่วยทำให้การออกแบบสติกเกอร์สินค้าสามารถถ่ายทอดตัวตนของสินค้าออกมาได้
     
  2. กำหนด Mood & Tone
    เมื่อวางคอนเซปท์การออกแบบสติกเกอร์สินค้าได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการกำหนด mood & tone หรือภาพรวมที่สอดคล้องกันในการออกแบบ ว่าควรจะใช้สีโทนไหน เช่น เอิร์ธโทน พาสเทล และโทนสีเหล่านั้น จะใช้สีอะไรเป็นสีหลักและสีรองบ้าง ซึ่งในเรื่องของการใช้สีนี้ อาจเลือกคู่สีที่ไปด้วยกันได้ เช่น สีฟ้าอ่อนกับสีชมพูนมเย็น หรืออาจเป็นคู่สีที่คอนทราสต์กันอย่างสุดขั้ว เพื่อสร้างความแตกต่างก็ได้เช่นกัน เช่น สีส้มแทนเจอรีนกับสีเหลืองสด และยังควรต้องใส่ใจในเรื่องของทฤษฎีสีด้วย เพราะการใช้สีต่าง ๆ นั้นมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้คน เช่น สติกเกอร์สินค้าสีฟ้าหรือสีโทนเย็น เหมาะกับผลิตภัณฑ์สปา เพราะจะให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจเมื่อมองเห็นสติกเกอร์สินค้า นับเป็นการที่สติกเกอร์สินค้าสามารถตอบโจทย์ตัวตนของผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี

    จากนั้นก็ต้องมาดูที่ตัวอักษรที่จะใช้ ว่าจะมีรูปแบบเป็นอย่างไร เช่น จากตัวอย่างในข้อ 1 หากเป็นสินค้าสไตล์ไทย ก็อาจใช้ตัวอักษรแบบไทยโบราณ หรือตัวอักษรลายมือสไตล์ไทย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างบุคลิกลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับสติกเกอร์สินค้าได้มากขึ้น

    นอกจากนี้ยังต้องวางแผนด้วยว่าภาพกราฟฟิคที่ใช้จะมีรูปแบบหรือลายเส้นเป็นอย่างไร เช่น ใช้ภาพกราฟฟิคสไตล์ภาพวาดพู่กัน หรือใช้ภาพกราฟฟิคสไตล์โมเดิร์นที่มีเส้นสายตัดกันชัดเจน ซึ่งทั้งสองขั้นตอนในช่วงแรกนี้จะช่วยกำหนดแนวทางการออกแบบสติกเกอร์สินค้าไม่ให้หลงทาง และช่วยให้มองเห็นภาพรวมของการออกแบบสติกเกอร์สินค้าได้

  3. กำหนดรูปทรงและขนาดของสติกเกอร์สินค้า
    ควรกำหนดรูปทรงและขนาดของสติกเกอร์สินค้าที่จะใช้ติดลงบนบรรจุภัณฑ์ให้ชัดเจน โดยวัดขนาดของบรรจุภัณฑ์ออกมาก่อน พร้อมทั้งดูว่าพื้นที่ที่จะติดสติกเกอร์สินค้าควรอยู่ในตำแหน่งใด และควรมีขนาดเท่าใดบนตัวบรรจุภัณฑ์ เช่น ติดตรงกลางถุง หรือติดรอบขวดทั้งหมด

    และควรดูว่ารูปทรงสติกเกอร์สินค้าแบบใดจะเหมากับตัวบรรจุภัณฑ์และสไตล์การออกแบบที่วางไว้มากที่สุด เช่น สติกเกอร์สินค้าทรงกลม
    อาจเหมาะกับกล่องเค้ก หรือขวดและกระปุกที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก หรือสติกเกอร์สินค้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า เหมาะกับติดรอบขวดสินค้า เป็นต้น

  4. การวางองค์ประกอบในการออกแบบสติกเกอร์สินค้า
    เมื่อกำหนดคอนเซปท์และ mood & tone ในการออกแบบได้แล้ว ก็จะต้องมีการกำหนดการวางองค์ประกอบในการออกแบบสติกเกอร์สินค้าขึ้นมา ว่าภาพกราฟฟิค โลโก้ และรายละเอียดของสินค้า ควรจะต้องนำไปวางไว้ตรงส่วนไหนบนสติกเกอร์สินค้าบ้าง

    และนอกจากการวางองค์ประกอบหลัก ๆ บนสติกเกอร์สินค้าแล้ว ยังสามารถใช้ภาพกราฟฟิคอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าสินค้าเป็นผลิตภัณฑ์อะไรอย่างชัดเจน เข้ามาช่วยเสริมการออกแบบได้อีกด้วย เช่น ผลิตภัณฑ์คางกุ้งทอด มีรูปกุ้งเป็นองค์ประกอบหลัก และอาจวางภาพองค์ประกอบรอง เป็นทะเล คลื่น อยู่ข้าง ๆ ตัวกุ้งด้วยก็ได้ จะทำให้สติกเกอร์สินค้าดูมีเรื่องราว และมีสเน่ห์มากขึ้น

    ส่วนในเรื่องของการวางองค์ประกอบอื่น ๆ เช่น โลโก้ และรายละเอียดของสินค้า ก็ควรจัดวางไว้ในตำแหน่งที่เห็นได้เด่นชัด โดยรายละเอียดของสินค้านั้นก็ควรจัดวางให้อ่านง่าย และไม่รกจนเกินไป

  5. เลือกประเภทกระดาษและประเภทของการพิมพ์
    เมื่อวางคอนเซปท์ วาง mood & tone รวมถึงรูปทรงของสติกเกอร์สินค้า และองค์ประกอบในการออกแบบได้แล้ว ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการเลือกประเภทของกระดาษ และประเภทของการพิมพ์ให้สอดคล้องกับการออกแบบและคอนเซปท์ทั้งหมด เช่น หากออกแบบในสไตล์วินเทจ หรือมินิมอล ก็เหมาะที่จะใช้กระดาษที่มีเทกซ์เจอร์แบบธรรมชาติ และใช้การพิมพ์แบบด้าน เพื่อให้สติกเกอร์สินค้าไม่ดูทันสมัยจนเกินไป

    หรือหากสินค้าและบรรจุภัณฑ์มีความหรูหรา ก็ควรเลือกกระดาษอาร์ตมัน และใช้การพิมพ์แบบฟอยล์เงิน หรือฟอยล์ทองบนสติกเกอร์สินค้า ก็จะช่วยทำให้สติกเกอร์สินค้ามีความน่าสนใจและดูหรูหรามากขึ้น

เทคนิคการออกแบบสติกเกอร์สินค้าทั้งหมดนี้ เป็นเทคนิคง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ต้องเข้าใจบุคลิกและตัวตนของสินค้าเป็นอย่างดี และถ่ายทอดออกมาให้กลายเป็นงานออกแบบได้ เพียงเท่านี้สติกเกอร์สินค้าของคุณก็จะสวยงาม มีเอกลักษณ์ และเรียกสายตาลูกค้าได้อย่างแน่นอน

และหากคุณกำลังคิดจะออกแบบสติกเกอร์สินค้าให้กับผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ที่โรงพิมพ์ออลอินวันพริ้นติ้ง ก็มีบริการงานพิมพ์บนสติกเกอร์สินค้าที่ใช้เทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ระบบดิจิตอลออฟเซ็ทที่ทันสมัย สามารถควบคุมคุณภาพของสีบนสติกเกอร์สินค้าให้ออกมาใกล้เคียงกับงานพิมพ์ที่คุณต้องการได้มากที่สุด เพราะโรงพิมพ์ออลอินวันพริ้นติ้งควบคุมคุณภาพของงานพิมพ์ด้วยทีมงานช่างพิมพ์ และทีมงานควบคุมคุณภาพงานพิมพ์มืออาชีพ และมีประสบการณ์ในงานพิมพ์มากกว่า 10 ปี พร้อมทีมงานออกแบบกราฟฟิกดีไซน์ ไว้คอยช่วยเหลือในเรื่องการออกแบบให้คุณ ในกรณีที่คุณยังไม่มีทีมงานช่วยออกแบบสติกเกอร์สินค้าให้ เมื่อคุณเลือกใช้บริการที่โรงพิมพ์ออลอินวันพริ้นติ้ง คุณจะได้สติกเกอร์สินค้าสวย ๆ และบริการที่ครบจบในที่เดียว

 

ติดต่อเราโรงพิมพ์ โรงพิมพ์ดิจิตอล All in One Printing
รับพิมพ์ซองจดหมาย 
พิมพ์คูปอง พิมพ์บิล

https://www.allinoneprinting.co.th
โทรศัพท์ : 02-115-3468
โทรศัพท์ : 02-865-2689, 02-865-2493
อีเมล : sale8.aiop@gmail.com



Visitors: 164,674